Tesla ถอดความสำเร็จรถยนต์ไฟฟ้า จนกลายมาเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลก
- กิตติกร ทองสะอาด
- 6 พ.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 8 พ.ย. 2567

Tesla เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดยวิศวกรสองท่านที่มีเป้าหมายในการพัฒนาและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานและทันสมัย Tesla พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างจากรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันจนได้มาเจอนักลงทุนอย่าง Elon Musk ซึ่งมาในฐานะผู้บริหารให้กับ Tesla จนมาเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้นของ Tesla
Tesla ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดย Martin Eberhard และ Marc Tarpenning เป็นวิศวกรที่มีความคิดที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเน้นสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย เป้าหมายคือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ไกลและมีสมรรถนะที่เทียบเท่าหรือดีกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปที่ขับได้ในระยะทางที่จำกัด
ในปี 2004 Elon Musk เข้าร่วมกับ Tesla ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้บริหาร โดยเขามีบทบาทในการพัฒนาให้ Tesla ไปถึงเป้าหมายของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม จากนั้น Tesla เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรก คือ Roadster ในปี 2008 ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนวงการรถยนต์ไฟฟ้าก็ว่าได้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Tesla ได้รับการยอมรับ
การทำการตลาดที่ทำให้ Tesla มาเป็นที่รู้จักในตลาดโลก
Tesla วางตัวเป็นแบรนด์หรูและล้ำสมัยที่เน้นเทคโนโลยี ที่ช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้า Tesla ใช้การตลาดแบบปากต่อปาก โดยให้ลูกค้าที่ใช้งานจริงเป็นผู้สื่อสารแทนการโฆษณา Elon Musk CEO ของ Tesla ใช้สื่อออนไลน์ในการสื่อสารกับลูก โดยเฉพาะ Twitter ใช้บอกข่าวสารและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ Tesla ยังใช้กลยุทธ์การเปิดจองล่วงหน้าเพื่อสร้างกระแส เช่น การเปิดจอง Model 3 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
โชว์รูมและศูนย์บริการของ Tesla เน้นตั้งอยู่ในเมืองใหญ่เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสด้วยตัวเอง Tesla ยังให้ลูกค้าได้ทดลองขับด้วยตัวเอง เพื่อให้เข้าถึงในเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ Tesla ยังใช้การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-Air (OTA) ทำให้ลูกค้าได้รับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าในตัวรถมากขึ้น
เทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้ในการพัฒนาของ Tesla
Tesla ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนา เช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจุสูงและมีประสิทธิภาพยาวนาน รวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่ 4680 ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ และ ระบบขับขี่อัตโนมัติ Autopilot และ Full Self-Driving (FSD) ใช้กล้อง เซ็นเซอร์ และ (AI) ที่ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนเองได้ นอกจากนี้ Tesla ยังมีสถานีชาร์จ Supercharger ที่ใช้เวลาชาร์จแค่ 15 นาที สามารถวิ่งได้ถึง 308 กิโลเมตร
Tesla พัฒนา Tesla Solar Roof ซึ่งเป็นแผ่นหลังคาที่ผสมโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้าน และมีระบบแบตเตอรี่ Powerwall และ Powerpack สำหรับเก็บพลังงาน ที่ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จพลังงานนอกบ้านอีกด้วย
สรุป
Tesla มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และพลังงาน เป้าหมายที่ต้องการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็นศูนย์ในอนาคต บริษัทได้ขยายการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่ไปทั่วโลก รวมถึงการก่อสร้าง Gigafactory ที่เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในหลายประเทศเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น Tesla ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ บริษัททั่วโลกในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม




ความคิดเห็น